![]() |
ก่อตั้งเป็นโรงเรียนประชาบาล เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๖๕ โดย ขุนศรีวรราช ( จรัล รัตนประทีป ) ดำรงอยู่ด้วยเงินศึกษาพลี จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการ จากชั้น ป. ๑–๔ ต่อมาได้ขยายชั้นเรียนให้สูงขึ้น ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เปิดสอนได้ ๔ ปี ก็ยุบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕–๖ คงเหลือเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑–๔ พุทธศักราช ๒๔๖๑ ทางราชการได้ย้าย หลวงวรเดช (กัน รัตนโกเศศ) ไปดำรงตำแหน่งปลัดจังหวัดนครพนม และย้าย นายจรัล รัตนประทีป ปลัดอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี มาดำรงตำแหน่งนายอำเภอท่าอุเทน ต่อมา นายจรัล รัตนประทีป ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ขุนศรีวรราช ในปีพุทธศักราช ๒๔๖๓ ได้ก่อสร้างอาคารเรียนทรงยุโรป ใช้เงินศึกษาพลีและแรงงานทำงานให้แก่สาธารณะ คนละ ๑๕ วัน ใช้เงินในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น ๑๓,๙๒๕.๘๐ บาท พุทธศักราช ๒๔๖๖ วันที่ ๒๐ ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "อุเทนวิทยาคาร" พุทธศักราช ๒๔๗๖ วันที่ ๑๕ เมษายน นายปรุง ปริปุณณะ ศึกษาธิการอำเภอ ได้นำพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ มาประดิษฐาน เป็นอนุสาวรีย์ภายในบริเวณโรงเรียน และก่อสร้างสโมสรลูกเสือไว้ด้านหลังพระบรมรูป ปัจจุบันสโมสรลูกเสือได้ถูกดัดแปลงเป็นอาคารเรียน พุทธศักราช ๒๔๙๑ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ทางราชการได้เปิดสอนหลักสูตรมัธยมวิสามัญขึ้น โดยนายปั่น แก้วมาตย์ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เลขานุการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ริเริ่มเปิดสอนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ลำดับแรก ในช่วงนี้ทั้งครู อาคาเรียนและครุภัณฑ์ไม่มี ทางราชการจึงให้ครูประชาบาลมาช่วยสอน คือ ๑. นายเมธี ดวงสงค์ ป.ป. รักษาการแทนครูใหญ่ ๒. นายล้วน มานิตย์ ป.ป. ทำการสอนประจำชั้น มีนักเรียนจำนวน ๔๖ คน เป็นผู้ชายทั้งหมด พุทธศักราช ๒๔๙๒ ได้รับงบประมาณจากกระทรวงศึกษาธิการ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ปลูกสร้างอาคารเป็นเอกเทศ สำหรับเปิดสอนนักเรียนสายมัธยมวิสามัญโดยเฉพาะ แต่อยู่ในบริเวณเดียวกับ โรงเรียนอุเทนวิทยาคาร การปลูกสร้างอาคารเรียนดังกล่าวแล้วเสร็จในปีเดียวกัน แต่ทำการฉลอง เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๙๓ ในนามว่า “โรงเรียนท่าอุเทน” ทำการสอนตามหลักสูตรมัธยมวิสามัญเรื่อยมาจนถึงพุทธศักราช ๒๔๙๕ ทางราชการ จึงสั่งเปลี่ยนแปลงจากสภาพโรงเรียนมัธยมวิสามัญเป็น “มัธยมสามัญศึกษาพิเศษ” แต่การเรียนการสอนยังคงเหมือนเดิม คือ สอนตามหลักสูตรมัธยมวิสามัญในระหว่างนี้ นายประสงค์ เสนาไชย ได้ย้ายจึงให้ นายเมธี ดวงสงค์ รักษาราชการแทนครูใหญ่ พุทธศักราช ๒๔๙๗ เดือน มีนาคม ทางราชการได้เรียกตัว นายเมธี ดวงสงค์ และ นางบัวผัน อินทุวงศ์ ไปรับการอบรมการศึกษาแผนใหม่ ณ โรงเรียนพญาไท จังหวัดพระนคร โดยให้นายเมธี ดวงสงค์ เข้ารับการอบรม ๑๕ วัน นางบัวผัน อินทุวงศ์ เข้ารับการอบรม ๗ วัน เมื่อกลับจากการอบรมทั้ง ๒ ท่าน จึงได้ดำเนินการปรับปรุงและสอนแผนใหม่ คือ สอนตามหลักสูตร “มัธยมศึกษาพิเศษ” พุทธศักราช ๒๔๙๙ ทางราชการ ได้รวมโรงเรียนประชาบาลและมัธยมศึกษาพิเศษ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เข้าเป็นโรงเรียนเดียวกัน และให้มีครูใหญ่คนเดียวปกครอง โดยมอบให้ นายล้วน มานิตย์ เป็นครูใหญ่ชื่อโรงเรียนยังคงเป็น“โรงเรียนท่าอุเทน”ต่อมาในปีเดียวกันได้แยกโรงเรียนประถมไปเรียนที่โรงเรียนตั้งขึ้นใหม่ คือ“โรงเรียนบ้านท่าอุเทน”ครูที่สอนระดับปฐมวัยถูกย้ายไปด้วย พุทธศักราช ๒๕๐๕ ทางราชการได้สั่งให้ นายล้วน มานิตย์ ไปเป็นศึกษานิเทศก์จังหวัดนครพนม ให้นายเมธี ดวงสงค์ เป็นผู้รักษาราชการแทนครูใหญ่ และต่อมาอีก ๓ เดือน ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นครูใหญ่ โรงเรียนท่าอุเทน โดยสอบชั้นตรีได้ และจัดการเดินไฟฟ้าเข้าโรงเรียนทั้งสองอาคารคือ อาคารทรงยุโรปและอาคารประถมปลาย ใช้เงินทั้งสิ้น ๒,๙๙๐ บาท พุทธศักราช ๒๕๐๔ ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการจัดการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ใช้หลักสูตรประถมศึกษาพุทธศุกราช ๒๕๐๓ ปีการศึกษา ๒๕๐๔ เริ่มใช้กับ ประถมศึกษาปีที่ ๑–๒ และประถมศึกษาปีที่ ๕ (และมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๐๕ เริ่มใช้กับประถมศึกษาปีที่ ๓ ,๖ และปีการศึกษา ๒๕๐๖ เริ่มใช้กับ ประถมศึกษาปีที่ ๔,๗ พุทธศักราช ๒๐๕๗ ได้ก่อสร้างอาคารเรียน ๑ หลัง ๒ ห้องเรียน เป็นอาคารชั้นเดียวติดดิน เป็นที่จัดการเรียนการสอนชั้นเด็กเล็ก พุทธศักราช ๒๕๑๔ ได้รับงบประมาณก่อสร้างโรงอาหาร ๑ หลัง และในปีเดียวกัน นายชอบ บุพศิริ ครูใหญ่ได้รับแต่งตั้งให้ไปรักษาการในตำแหน่งหัวหน้าหมวดการศึกษาอำเภอท่าอุเทน จึงให้ นางบัวผัน อินทุวงศ์ รักษาการแทน พุทธศักราช ๒๕๑๖ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม เป็นเงิน ๑๐๗,๐๐๐ บาท เริ่มก่อสร้างใน เดือนกรกฎาคม ๒๕๑๖ แล้วเสร็จ ในเดือนกันยายน ๒๕๑๖ ใช้เป็นอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑–๒ ส่วนอาคารเรียนหลังเก่าได้ถูกรื้อถอน บางส่วนนำไปปลูกสร้างโรงจอดรถจักรยานสำหรับนักเรียน ตั้งอยู่ระหว่างอาคารเด็กเล็กกับโรงอาหาร โดยใช้เงินบำรุงการศึกษาจำรวน ๑,๒๐๐ บาท เป็นค่าจ้างแรงงานก่อสร้าง พุทธศักราช ๒๕๒๒ เดือนตุลาคม นายชอบ บุพศิริ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่ตามเดิม พุทธศักราช ๒๕๓๐ วันที่ ๑ พฤษภาคม สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม ได้แต่งตั้งนายพจน์ กิติศรีวรพันธุ์ มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ พุทธศักราช ๒๕๓๕ วันที่ ๑๖ มิถุนายน สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม ได้แต่งตั้งนายตระกูล บุพศิริ มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนอุเทนวิทยาคาร พุทธศักราช ๒๕๔๕ วันที่ ๑ ตุลาคม สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนครพนม มีคำสั่งเลื่อนและแต่งตั้งนายกมล ไชยมงคล ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอุเทนวิทยาคาร พุทธศักราช ๒๕๔๗ วันที่ ๓๐ กันยายน นายกมล ไชยมงคล ได้เกษียณอายุราชการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต ๒ ได้สั่งแต่งตั้ง นายพัชรพงษ์ ทัดศรี มาดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนอุเทนวิทยาคาร ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ พุทธศักราช ๒๕๔๘ วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ มีการเปลี่ยนแปลง กำหนดให้ข้าราชการครู ตาม พรบ.ข้าราชการครู พ.ศ. ๒๕๒๓ ดำรงตำแหน่ง หรือดำรงตำแหน่งที่มีวิทยฐานะและได้รับเงินเดือนตาม พรบ.ระเบียบราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๗ และตามคำสั่ง สพท.นพ. ๒ ที่ ๕๑/๒๕๔๘ ให้นายพัชรพงษ์ ทัดศรี ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนอุเทนวิทยาคาร ตั้งแต่วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๗ และเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ พุทธศักราช ๒๕๖๕ วันที่ ๑ ตุลาคม มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ตามคำสั่ง ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม ที่ ๔๖๒/๒๕๖๕ ให้นายธีระวุฒิ พันธุ์เวียง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนอุเทนวิทยาคาร ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ โรงเรียนอุเทนวิทยาคาร ได้มีหนังสือที่ ศธ. ๐๔๐๖๑.๒๐๘/๐๖๐ ขอเข้าร่วมเป็นภาคีมูลนิธิฯ เนื่องจาก เป็นสถานศึกษาที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม "อุเทนวิทยาคาร" ไว้เมื่อพุทธศักราช ๒๔๖๖ จึงได้รับโรงเรียนอุเทนวิทยาคาร เข้าร่วมภาคีเครือข่ายสถาบันการศึกษาในรัชกาลที่ ๖ และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๖ เป็นลำดับที่ ๒๓ |
